จาก ‘เด็กผมชมพูวันนั้น’ สู่ ‘เติร์ดในวันนี้’ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?


จาก ‘เด็กผมชมพูวันนั้น’ สู่ ‘เติร์ดในวันนี้’ มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง?

‘เติร์ด ลภัส’ ศิลปินหนุ่มผู้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่อายุ 12 ปี และเป็นที่รู้จักทั้งในฐานะ ‘เติร์ด KamiKaze’, ‘เติร์ด 9×9’, ‘เติร์ด TRINITY’ และนักแสดง ‘เติร์ด ลภัส’ ซึ่งเติร์ดก็สามารถทำออกมาได้ดีในทุกบทบาท รวมถึงยังคงสามารถรักษา ‘ความเป็นตัวเอง’ และ ‘ความสุข’ ที่มีต่อการทำงานในวงการได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

ศิลปิน

Q: เข้าวงการมาตั้งแต่เด็ก มีเบื่อบ้างไหม?
เติร์ด: เบื่อหรอครับ ไม่มีนะครับ (ยิ้ม)

Q: แล้วทำอย่างไรให้ยังคงมีแพสชั่นในวงการบันเทิงอยู่?
เติร์ด: ผมไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษนะ แต่แค่รู้สึกว่าเราแฮปปี้เองที่จะอยู่ในจุดนี้ ก็เลยไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นปัญหา หรือเป็นเรื่องที่แบบต้องมานั่งคิดอะไรขนาดนั้น

Q: หากเปรียบเดบิวต์แรกเป็น ‘สี’ เติร์ดคิดว่า คือสีอะไร?
เติร์ด: เดบิวต์แรกของผมน่าจะเป็นสีชมพูนะครับ เพราะตอนนั้นผมอายุ 12 อะ รู้สึกว่ามันมีความเฟรช มีความสดใส มีความแบบป็อปปี้เลิฟ เลยเป็นสีชมพู

Q: แล้วตอนนี้ ‘สี’ ของเติร์ด เปลี่ยนไปบ้างไหม?
เติร์ด: ไม่มีครับ ผมรู้สึกว่าผมคือเติร์ดคนเดิมที่เดบิวต์เมื่อปี 2013-2014 ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย นอกจากอายุ (หัวเราะ)

Q: แล้วเป็นชมพูเฉดไหน?
เติร์ด: ชมพูเฉดเดียวกับสีผมสมัยนั้นเลยครับ ชมพูแบบโรสโกลด์ อันนี้คือในพาร์ทเพลงของผมนะ ถ้าในพาร์ทชีวิตส่วนตัวผม ผมว่าผมเป็นสีเงิน เพราะผมชอบสีเงินครับ คือบางทีมันไม่ต้องมีเหตุผลอะไรก็ได้ แค่สีนี้เป็นเรา และสีนี้เราชอบอะไรอย่างนี้

Q: ตั้งแต่เข้าวงการมา มีโมเมนต์ไหนที่ประทับใจที่สุด
เติร์ด: จริง ๆ ผมค่อนข้างที่จะประทับใจ ทุก process แหละ ตั้งแต่เราเริ่มเข้ามาเลย ถ้าให้เลือก 1 โมเมนต์ ผมเลือกไม่ได้หรอก เพราะทุกอย่างมันสำคัญสำหรับตัวผมมาก ๆ เพราะมันทำให้ผม เป็นผมในทุก ๆ วันนี้ แต่ถ้าต้องเลือกจริง ๆ ก็คงคอนเสิร์ต TRINITY ครับ เพราะมันเป็นครั้งแรกเลย ที่ขึ้นไปยืนบนอิมแพ็ค แล้วรู้สึกว่า วันนี้เป็นวันของเราว่ะ

Q: พูดถึงโชว์ ‘Armageddon’ หน่อย ฟีดแบ็คดีมาก เรารู้สึกยังไง?
เติร์ด: รู้สึกว่าเป็นที่พูดถึงเยอะ และดีใจที่ทุก ๆ คนชอบกัน เพราะมันก็เป็นโชว์รวมของพวกเรา 3 คน ในรอบหลาย ๆ เดือนด้วย ก็รู้สึกดีใจ รู้สึกสนุกที่ได้ซ้อมกับเพื่อน ๆ

Q: เราเตรียมโชว์นี้อย่างไรบ้าง?
เติร์ด: ตอนคุยงานกัน เราต้องแสดงร่วมกันเพลงหนึ่ง เขาก็เลยให้เสนอไป ผม ปอร์เช่ และแจ็คกี้ก็คุยกันว่า เออเดี๋ยวเราลองโยน ๆ เพลงมาไหม สักคนละ 2-3 เพลง ว่าอยากได้เพลงอะไรบ้าง ก็มีหลายเพลงเลยในลิสต์ และผมก็โยนเพลง Armageddon ไป เพราะผมแค่รู้สึกว่าเออมันจะเป็นยังไงถ้าผู้ชายร้องเพลงนี้ รวมถึงผมรู้สึกชอบท่าเต้นมากเลย มันค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ และปอร์เช่กับแจ็คกี้ ก็ชอบเหมือนกัน เลยเป็น Armageddon ครับ

Q: พูดถึงด้านการแสดงบ้างดีกว่า เติร์ด รู้สึกว่าในฐานะนักแสดงมีอะไรที่ท้าทายไหม?
เติร์ด: ผมรู้สึกว่ามันท้าทายทุกครั้งที่รับการแสดง เพราะด้วยความที่เบสหลักเราเป็นศิลปินใช่ไหม พอเป็นศิลปินมันเหมือนเราเป็นตัวเอง ความเป็นตัวเอง 100% ออกไปสู่โลกภายนอก แต่ว่าพอมันเป็นการแสดง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรือว่าซีรีส์ หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ มันคือการที่เราจะต้องเป็นอีกคน ๆ หนึ่ง มันก็คือเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับผม เพราะว่าด้วยความที่เรามีความเป็นตัวของตัวเองสูง เลยต้องพยายามมีสมาธิกับบทและอยู่กับตัวละครให้เยอะ ๆ

Q: คิดว่าตัวละคร ‘ลุค’ ใน Achilles Curse เหมือนกับ ‘เติร์ด’ ตรงไหนบ้าง?
เติร์ด: หน้าตาครับ (หัวเราะ) ด้วยความที่มันเป็นแฟนตาซีอ่ะครับ ผมรู้สึกว่าการเติบโตของตัวละคร หรือแม้แต่การมองโลก มันก็ไม่เหมือนกัน เพราะในเซ็ตติ้งที่เป็นตัวละครลุคอ่ะครับ เขาจะอยู่ในโลกที่ทุก ๆ คนอยู่มาเป็นร้อยปีอะ เพราะฉะนั้น มุมมองต่อหลาย ๆ อย่างเขาก็จะไม่เหมือนกับเรา

Q: สุดท้ายนี้ ฝากภาพยนตร์ “Achilles Curse กับสมบัติต้องคำสาป” หน่อย
เติร์ด: ฝาก Achilles Curse ด้วยนะครับ ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์แนวสืบสวนแฟนตาซี ที่มีนักแสดงนักแสดงหน้าใหม่ไฟแรง หลายท่านเลย ไม่ว่าจะเป็นกัปตัน ชลธร, มาเบล พิมมา อิงโกะ PiXXiE, เก๋ไก๋, จ๋อมแจ๋ม และอีกมากมาย มีพี่โดม พี่แมทธิวด้วย อยากให้ทุกคนมาดูกันครับ คือพอพูดว่าเป็นหนังสืบสวนสอบสวนหลาย ๆ คนก็อาจจะคิดว่ามันจะตึงเครียดหรือเปล่า แต่ว่าบอกเลยว่าครบทุกรสครับ ฝากด้วยครับทุกโรงภาพยนตร์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *